(การ์ดคำสอน) มองคนอื่นด้วยสายตาที่เป็นมิตรบ้าง


คลิปดูภาพขนาดใหญ่ได้

หัดไม่เอาบ้าง หัดให้คนอื่นซะบ้าง ถ้าหัดให้เป็นแล้วจะรู้สึกว่าการให้มีความสุขมากกว่าการไปแย่งเขา หรือหัดโกรธ ความโกรธมันเกิด เห็นไหม หัดไม่โกรธดูบ้าง หัดมองคนอื่นด้วยสายตาที่เป็นมิตรบ้าง
มองคนอื่นอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่มองแบบเหยียดเขากดเขารังแกเขาข่มเหงเขา เพื่อกูจะได้เด่นเหนือคนอื่นอะไรแบบนี้ จิตใจเต็มไปด้วยกิเลส เต็มไปด้วยความเร่าร้อน พยามมองคนอื่นด้วยสายตาที่เป็นมิตรบ้าง
เสมอกันนะแต่ละคน ทำใจให้เสมอกัน เราก็ต้องดู คนอื่นเขาก็รักความสุขเกลียดความทุกข์เหมือนกัน อย่ารังแกกัน ใจก็ค่อยๆ มีความรู้สึกเป็นมิตร เมตตาอาทรต่อกัน จิตใจก็ร่มเย็นเป็นสุข ถ้าใครเข้าใกล้เราเขาก็มีความสุขไปด้วย
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
จากธรรมเทศนา ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ (mp3)

สามารถศึกษาข้อธรรมะจากพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช
อ่านหนังสือ pdf และคลิปเสียง mp3 เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/ และ http://www.dhammada.net/

และที่นี่เพิ่มเติม
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

(การ์ดคำสอน) พึงเมตตาเมตตาผู้อื่น

make-it-strong-750px
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่เลยค่ะ

เจริญเมตตาไป นึกไปเรื่อยๆ เบื้องต้นนึกเอาก่อน
สัตว์ทั้งหลายเป็นสุขเป็นสุขเถิด
นึกๆ ไปแค่นี้ ต่อไปใจจะค่อยๆ น้อมไป
แล้วถ้าเมื่อไหร่ใจเห็นสัตว์ทั้งหลายน่าสงสาร
ความเมตตาจะมหาศาล
จะเห็นสัตว์ทั้งหลายมนุษย์ทั้งหลายเต็มไปด้วยความทุกข์
คือทุกคนที่ไม่รู้จักเมตตาคนอื่นนะ
เห็นแต่ตัวเองทุกข์ ไม่เห็นคนอื่นเขาก็ทุกข์
ถ้าเมื่อไหร่เราเห็นว่าคนอื่นเขาก็ทุกข์
ทุกข์น่าสงสารมาก
เมตตาจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ
จากธรรมเทศนา พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช (๑๒ ม.ค. ๕๗)
สามารถดาวโหลดคลิปเสียงฟังได้ที่นี่ค่ะ
http://media.dhamma.com/pramote/other/mp3/570112.mp3

สามารถศึกษาข้อธรรมะจากหลวงพ่อปราโมย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/ และ http://www.dhammada.net/

(การ์ดคำสอน) ต้องรู้ว่ามีจุดอ่อนอะไรจุดแข็งอะไร

make-it-strong-750px
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่

เราต้องรู้ว่าเรามีจุดอ่อนอะไรจุดแข็งอะไร ถ้าเรารู้เราก็ดู เราก็หากรรมฐานที่เหมาะกับเรา
อย่างเรารู้แล้วว่าจิตเราไม่ตั้งมั่นพอ จิตเราฟุ้งไป ไม่มีแรงทำกรรมฐานก็ทำฝึกจิตให้มีแรง
แล้วก็มาดูว่ากรรมฐานอะไรที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องเลียนแบบคนอื่นดูเอาเอง
การฝึกจิตให้มีสมาธิมีสองลักษณะ อันหนึ่งให้จิตสงบ อันหนึ่งให้จิตตั้งมั่น
ถ้าจิตเราฟุ้งซ่านมากเราฝึกให้จิตสงบ วิธีฝึกให้สงบฟคือน้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุขอยู่ต่อเนื่อง แล้วเป็นอารมณ์ที่ไม่เป็นอกุศล เป็นอารมณ์ที่ดีๆ
ถ้าเราพุทโธแล้วมีความสุข เราก็พุทโธไป จิตเราก็สงบ รู้ลมหายใจแล้วมีความสุข จิตก็สงบ เราดูเอา บางคนสวดมนต์ไปเรื่อยจิตก็สงบ เพราะว่ามีความสุข
อีกสมาธิหนึ่งก็คือการฝึกจิตให้ตั้งมั่น จิตไหลแล้วรู้ จิตไหลแล้วรู้ ทำกรรมฐานอย่างหนึ่ง จิตไหลแล้วรู้มันจะตั้งมั่น
ฝึกสมาธิให้ได้ทั้งสองอันดีที่สุดแล้ว อันหนึ่งไว้พักผ่อน อันหนึ่งไว้เดินปัญญา
จากธรรมเทศนา พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
(๑๒ ม.ค.๕๗) ดาวโหลดฟังคลิปเสียง mp3

ศึกษาข้อธรรมะจากหลวงพ่อปราโมย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/ และ http://www.dhammada.net/

(การ์ดคำสอน) …ปล่อย…

หากเมื่อใดจิตปล่อยวางจิต
จิตก็จะปล่อยวางขันธ์และโลกได้ทั้งหมด
และไม่ยึดถืออะไรในโลกอีก
เหมือนคนขายลูกโป่งสวรรค์
เขาใช้มือข้างเดียวกำปลายเชือกไว้
ก็สามารถกุมลูกโป่งสวรรค์ได้ทั้งหมด
แค่แบมือทีเดียว
ลูกโป่งสวรรค์ก็ถูกปล่อยทิ้งทั้งหมด
ในพริบตา
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ “วิธีการปฏิบัติธรรม”
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ดาวโหลดหนังสือ “วิธีการปฏิบัติธรรม” อ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://media.dhamma.com/pramote/books/patibudtham.pdf

(การ์ดคำสอน) เรียนรู้ให้เห็นซึ่งความจริงของชีวิต

ที่เราจมอยู่ในความทุกข์ไม่รู้จักเลิก เพราะใจเราไม่ยอมรับความจริง ใจเราไม่เห็นความจริง ความจริงของชีวิตคือ ในกายในใจนี้มีแต่ของไม่เที่ยง มีแต่ความทุกข์บีบคั้นอยู่ตลอดเวลา มีแต่ของที่ควบคุมไม่ได้ บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจปรารถนา นี่คือความจริงของชีวิต

ร่างกายต้องแก่ ร่างกายต้องเจ็บ ร่างกายต้องตาย จิตใจของเราต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ต้องเจอสิ่งที่ไม่รัก ต้องมีความผิดหวัง มีความโศกเศร้ารำพัน มีความไม่สบายกาย มีความไม่สบายใจ มีความคับแค้นใจ สิ่งเหล่านี้เป็นความจริง ที่วนเวียนอยู่ในชีวิตของเราตลอดเวลา ถ้าเราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตได้ จิตใจยอมรับความจริงได้

เช่น ยอมรับได้ว่าเราต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ต้องประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ต้องสมปรารถนาบ้าง ไม่สมปรารถนาบ้าง ความปรารถนานั้นไม่มีทีสิ้นสุดเลย แต่สุดท้ายก็คือไม่สมปรารถนานั่นแหละ เพราะว่าพอได้อย่างนี้ ก็ขยายความต้องการไปเรื่อยๆ ชีวิตก็จะจมในความทุกข์

เราต้องมาเรียนให้เห็นความจริงของชีวิต

ดูเรื่องนี้ต่อได้ที่นี่ – (ภาพการ์ตูน) สู่ความสิ้นทุกข์
https://dhammaway.wordpress.com/2014/07/14/dhamma-practice-manual-pramote-pamojjo/

เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ คู่มือการปฏิบัติธรรม
(ฉบับเต็ม แบบตัวหนังสือ) – พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
http://www.dhamma.com/guidebookformeditator/

(การ์ดคำสอน) ตั้งใจมั่นสู้แล้วไม่ถอย

do-it-2-750px
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่เลยค่ะ

ถ้าเราเคยสร้างทานบารมี เคยสละอย่างพระเวสสันดร
สละสมบัติ สละลูก สละเมีย กระทั่งชีวิตก็กล้าสละ
ถึงนาทีสุดท้าย มันจะกล้าสละชีวิตเพื่อธรรมะ

แต่ถ้าเรารักตัวเอง หวงตัวเองสุดขีดเลย
กลัวทุกข์กลัวยาก สารพัด มันจะไม่กล้า
ใจมันจะท้อถอยออกมา มันจะข้ามภพข้ามชาติไม่ไหว
หรืออย่างเรามีขันติบารมีเราฝึกความอดทนอดกลั้น
ในนาทีที่จะแตกหักความทุกข์มันท่วมท้น
ทุกข์บดขยี้เราปางตาย
เราจะอดทนอดกลั้นได้ไหม หรือเราจะถอย
ถ้าถอยเราจะมาอยู่กับโลกอย่างมีความสุขมากเลย
มีความสุขเยอะเพราะว่าจิตใจที่มันเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
จะมีแต่ความสุขเยอะมากแต่ว่ามันจะต้องไปเกิดอีก
ข้ามภพข้ามชาติไม่ได้
เรามีสัจจะไหม เรามีอธิษฐานบารมีไหม
คือความตั้งใจมั่นสู้แล้วไม่ถอย

คุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้
เราเอามาใช้ในนาทีที่เราจะข้ามภพข้ามชาติ
คุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้
มันเกิดจากคุณงามความดีเล็กๆ น้อยๆ ที่เราหัดสร้างกันนั่นเอง

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ธรรมเทศนาวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐

สามารถดาวโหลด ฟังคลิปเสียงธรรมเทศนานี้ฉบับเต็มได้ที่นี่
http://media.dhamma.com/pramote/sala/011/500520.mp3

ศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/

(การ์ดคำสอน) จิตจึงต้องตั้งมั่น

pramote-pamojjo-right-mindfulness-right-concentration-750px
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่ค่ะ

ถ้าใจเรามีสัมมาสมาธิ มันจะตั้งมั่น สักว่ารู้สักว่าเห็น
ปัญญามันจะเกิด จะเห็นเลยว่าทุกอย่างนี้ไม่ใช่ตัวเรา

แต่ถ้าใจเราไม่มีสัมมาสมาธิไม่ตั้งมั่น
ไปดูอะไรมันก็จะเป็นเราไปหมดเลย
เห็นความโกรธเกิดขึ้นมันก็เป็นเราโกรธ เห็นขามันเมื่อย
ก็เป็นขาของเราเมื่อย จะเป็นอย่างนี้ตลอด
งั้นเวลาที่ใจเราไม่ตั้งมั่น ไปรู้สิ่งต่างๆ
จะสะสมความรู้สึกผิดๆ ความเห็นผิดๆตลอดเวลาเลย
สะสมว่ามันมีตัวเรา มันมีตัวเรา

แต่ถ้าเรามีสติถูกต้องที่เรียกว่าสัมมาสติ
มีสมาธิถูกต้องเรียกว่าสัมมาสมาธิ
ปัญญาที่เกิดขึ้นจะเป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญาที่ถูกต้อง
ปัญญาที่ถูกต้องก็คือการที่เราเห็นว่า
กายกับใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ธรรมเทศนาวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐
ฟังคลิปเสียงช่วงนี้ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=DyU5qnpzs40

หรือสามารถดาวโหลด ฟังคลิปเสียงธรรมเทศนานี้ฉบับเต็มได้ที่นี่
http://media.dhamma.com/pramote/sala/011/500520.mp3

ศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/

(การ์ดคำสอน) จึงต้องมีกำลังของสมาธิ

pramote-pamojjo-samadhi-750px-text-1
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่ค่ะ

“… จิตที่มันไม่มีกำลังของสมาธิหนุนหลัง
มันรู้กายและเวทนายาก กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา
เป็นสติปัฏฐานที่เหมาะกับสมถยานิก เหมาะกับคนเล่นฌาน
ถ้าเราไม่ได้มีฌานหนุนหลังอยู่ เรารู้กายมันจะหลงไปเพ่งกาย
มันจะไม่สามารถรู้กายด้วยจิตที่ตั้งมั่นได้
จิตไม่สามารถตั้งมั่นเป็นแค่ผู้รู้ผู้ดูกาย
แต่จิตจะกลายเป็นผู้เพ่งกายหรือผู้คิดเรื่องกายทำได้แค่นั้น
ถ้าจิตไม่ตั้งมั่นสักว่ารู้สักว่าเห็นกาย จะเห็นธาตุไม่ได้
จะเห็นความเป็นธาตุของกายไม่ได้ จะเห็นได้แต่อวัยวะ
เช่นเราไปรู้ลมหายใจ เราก็จะเห็นลมหายใจ
รู้ท้องพองยุบ เราก็เห็นท้อง รู้เท้า เราก็เห็นเท้า
ลมหายใจ ท้อง เท้า มือ ร่างกายทั้งร่างกาย
มันไม่ใช่รูปตัวจริง เป็นแค่อวัยวะ
ตัวรูปแท้ๆ คือตัวธาตุทั้งหลายเห็นยากนะการจะเห็นร่างกาย
เข้าถึงความเป็นธาตุเป็นก้อนธาตุแท้ๆ
ดูยากถ้าใจไม่ตั้งมั่นมีสมาธิหนุนหลัง ไม่เห็น …”
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ธรรมเทศนาวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๐

ฟังคลิปเสียงท่อนนี้ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=2dwTI6XvRb0

และดาวโหลดคลิปเสียงนี้ฉบับเต็มฟังทั้งธรรมเทศนาได้ที่นี่ค่ะ
http://media.dhamma.com/pramote/cd/020/mp3/500415.mp3

สามารถศึกษาธรรมะข้อธรรมจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/

(ภาพการ์ตูน) เพียงแค่ปล่อยมือ

“ภาพต่อไปนี้” จะมีขนาดยาว
อาจใช้เวลาในการโหลดหน้านี้ซักครู่นะ แต่ว่าคุ้มค่ามากๆๆๆ

just-let-it-go-th-pramote-pamojjo.png
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ “วิธีการปฏิบัติธรรม” พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

สามารถศึกษาธรรมะข้อธรรมเพิ่มเติมได้จาก http://www.dhamma.com/

ดาวโหลดหนังสือ วิธีการปฏิบัติธรรม คลิกที่นี่

และสามารถแชร์ภาพนี้ทาง FB คลิกที่นี่
หมายเหตุจากผู้จัดทำ
หากท่านสนใจนำไปเผยแผ่ต่อขอได้โปรดเผยแผ่ทั้งหมดในภาพเดียว เพื่อให้เนื้อหาและภาพอยู่ด้วยกันครบถ้วนในกาลเวลาต่อๆไป (-/\-)

(การ์ดคำสอน) เพราะทำได้อยู่แล้ว

paj-pramote-pamojjo-5-2-150px
คลิกดาวโหลดภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่ค่ะ

“… เข้าใจหลักของการปฏิบัตินะ ลงมือทำ
ยิ่งเราปฏิบัติ แรงของเราก็จะค่อยมากขึ้นๆ
กำลัง จรวดมันจะออกจากโลกได้มันต้องใช้แรง
มีกำลังมากๆ หลุดออกไปได้
จิตก็ต้องมีพลังมาก
ในการที่จะถอดตัวออกจากสังสารวัฏได้
แต่ก่อนเขาไม่ค่อยสอนกันนะ
แต่ก่อนสอนฆารวาส ทำทาน ถือศีล
อย่างเก่งก็นั่งสมาธิ
ฆารวาสนะ ถ้าเห็นทุกข์เห็นโทษ
ของการมีชีวิตอยู่ทุกวันๆนี้มีแต่ทุกข์
มันก็อยากพ้นเหมือนกัน
ถ้าเราบอกทางให้ ร้อยคนจะหลุดไปได้ซักครึ่งหนึ่ง
ถ้าไม่บอกเลยก็ไปไม่ได้ซักคน
หลวงพ่อถึงสอนพวกเรา
คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์แต่ก่อนสอนกับพระ
แต่อย่างหลวงพ่อภาวนาจริงจัง
เข้าหาครูบาอาจารย์นะท่านสอนอย่างนี้เลย
ท่านไม่ได้มาสอนทำทานถือศีลนั่งสมาธิ
สอนเรื่องเจริญปัญญา เรื่องมรรคผลนิพพาน
แล้วนึกดู ฆารวาสก็ทำได้นะ
ฆารวาสสมัยพุทธกาลทำไมเขาทำได้
ฆารวาสยุคนี้มันจะโง่ขนาดนั้นเลยหรือทำไม่ได้เลย
ร้อยคนได้ฟัง น่าจะได้ซักครึ่งกว่าๆ
ถ้าได้ฟัง เกินครึ่งเนี่ยทำได้ ถ้าสนใจจะทำนะ
บางคนไม่สนใจทำ เราไปเทศน์
ร้อยคนมันก็ไม่ฟัง ฟังคนเดียวสองคน แล้วก็ไม่ค่อยทำ
คือถ้าคนสนใจนะ
ตั้งใจฟัง ลงมือทำ น่าจะได้เกินครึ่ง
หลวงพ่อสอนละเอียดมาก ควรจะทำได้
มันไม่เหลือวิสัยหรอกที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้
…”
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ธรรมเทศนา ณ วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๐ พ.ย. ๕๖

ฟังคลิปเสียงท่อนนี้ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=eh5YNSh9Bh0

ดาวโหลดคลิปเสียงนี้ฉบับเต็มฟังได้ที่นี่ค่ะ
https://goo.gl/EaBZaj
หรือที่นี่
http://www.youtube.com/watch?v=fgtPU6A87dM

สามารถศึกษาธรรมะข้อธรรมจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เพิ่มเติมได้ที่
http://www.dhamma.com/